ในการผสมปุ๋ยต้องคนให้ปุ๋ยละลายกับน้ำให้สมบูรณ์มากที่สุด สารละลายปุ๋ยที่เราผสมจะได้มีประสิทธิภาพสูงสุด แล้วใช้ฉีดเป็นฝอยสเปรย์ละเอียดให้ชุ่มทั้งราก และต้น ถ้าเราเลี้ยงกล้วยไม้จำนวนมากก็ต้องใช้ปั๊มไฟฟ้าและฉีดด้วยหัวสเปรย์ละเอียด ถ้าเลี้ยงน้อยอาจใช้ปั๊มลูกสูบ ที่ใช้มือปั๊มโยกในการฉีดหรือใช้ถังอัดความดันที่ปั๊มความดันเข้าไปก่อนแล้วฉีด แต่ต้องตั้งหัวฉีดให้เป็นฝอยละเอียด เพื่อให้สารละลายปุ๋ยกระจายอย่างทั่วถึง และไม่เป็นการสิ้นเปลืองอีกด้วย
กล้วยไม้ นั้นสามารถนำอาหารเข้าสู่ต้นได้ทั้งทางรากและทางใบ ส่วนใหญ่(80-90 %)จะเข้าทางรากและส่วนน้อยสามารถเข้าทางใบได้ ซึ่งจะต่างจากพืชอื่นๆ ที่เข้าทางรากเพียงอย่างเดียว แต่อาหารนั้นจะต้องอยู่ในรูปของของเหลว(สารละลาย)เท่านั้นจึงจะเข้าสู่ทางรากและต้น(ใบ)ได้ ดังนั้นเราต้องฉีดปุ๋ยให้เปียกชุ่มทั้งรากและต้นครับ
การให้ปุ๋ยเข้าสู่รากกล้วยไม้นั้นก็ไม่ใช่การเข้าแบบดูดซึมผ่านเนื้อเยื่อ หากแต่เป็นการเข้าในลักษณะของการแลกเปลี่ยนประจุไฟฟ้า ดังนั้นเราไม่ต้องกังวลว่ารากกล้วยไม้จะอิ่มน้ำอยู่ก่อนแล้วจะดูดปุ๋ยไม่เข้าถึงแม้รากกล้วยไม้จะอิ่มน้ำอยู่ก่อนพอประมาณแต่ก็สามารถนำปุ๋ยเข้าสู่รากได้โดยการแลกเปลี่ยนประจุไฟฟ้า ท่ไม่ใช่การดูดซึมผ่านเนื้อเยื่อธรรมดาแต่ขบวนการให้ปุ๋ยกล้วยไม้ เราต้องฉีดให้รากเปียกชุ่มเสมอ หากฉีดแบบผ่านๆ รากยังไม่เปียกชุ่มเลย การที่ปุ๋ยจะเข้าสู่รากกล้วยไม้ก็เป็นไปได้ยากและไม่มีประสิทธิภาพ
มีวิธีให้ปุ๋ยที่ประหยัดและได้ผลดีคือ ฉีดน้ำรดกล้วยไม้ให้มีความชุ่มพอประมาณ และรอสักครู่ให้น้ำที่รากเริ่มแห้งพอหมาดๆ แล้วค่อยฉีดปุ๋ยวิธีนี้เป็นที่นิยมกันมากในหมู่ นักเล่น กล้วยไม้มืออาชีพที่เลี้ยงกล้วยไม้จำนวนมากๆ เพราะจะเป็นการประหยัดปุ๋ยไปได้ไม่น้อย(อาจถึง 50%) ทั้งนี้เมื่อรากกล้วยไม้เปียกชุ่มและเริ่มหมาดสามารถช่วยในการนำสารละลายปุ๋ยเข้าสู่รากได้โดยง่ายและทั่วถึงทำให้รากไม่ต้องฉีดปุ๋ยมากถึงรากเปียกชุ่ม เพราะรากได้เปียกชุ่มแล้วการที่เรารดน้ำก่อน เราสามารถฉีดปุ๋ยได้อย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพคล้ายคลึงกับการฉีดปุ๋ยจนชุ่มด้วยวิธีปรกติ วิธีนี้มีข้อเสีย คือ เราต้องเสียเวลารดน้ำกล้วยไม้ก่อน และรอจนหมาดจึงค่อยฉีดปุ๋ย แต่มีข้อดีคือ สามารถประหยัดปุ๋ยได้เป็นอย่างมากในกรณีมีกล้วยไม้มากๆ
เวลาในการให้ปุ๋ยนั้น ควรให้ในเวลาเช้าเท่านั้น หากไม่จำเป็นจริงๆ ไม่ควรให้ในเวลาเย็น เพราะเชื้อราที่แฝงอยู่ที่กล้วยไม้ จะมีกิจกรรมในเวลากลางคืน ดังนั้นหากเราให้ปุ๋ยในเวลาเย็นหรือดึก เชื้อราเหล่านั้นจะนำปุ๋ยไปเป็นอาหารด้วยเช่นเดียวกันและการให้ปุ๋ยในเวลาเช้า โดยเฉพาะในเวลาที่มีแสงแดดอ่อนๆ จะทำให้กล้วยไม้นำปุ๋ยไปใช้ประโยชน์ควบคู่ไปกับขบวนการสังเคราะห์แสงได้อย่างมีประสิทธิภาพและได้ผลสูงสุด
ความถี่ในการให้ปุ๋ยนั้นคือทุกๆ 7 วัน เป็นมาตรฐาน เราต้องรักษาเวลาความถี่ทุกๆ 7 วันนี้ไว้ให้ดี หากวันไหนเรายุ่งหรือฝนตกไม่สามารถฉีดปุ๋ยได้ เราก็เลื่อนออกไปและเมื่อเรื่มฉีดปุ๋ยใหม่ ก็ให้นับปอีก 7 วัน สำหรับการฉีดครั้งต่อไป การรักษาระยะเวลาทุกๆ 7 วัน นี้มีความสำคัญมากเพราะเราฉีดปุ๋ยในอัตราส่วนตามที่สลากระบุเขาคำนวนมาแล้ว สำหรับทุก 7 วัน เราต้องปฎิบัติตามนั้น
หวังว่าทุกท่านคงได้รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับเทคนิคการให้ปุ๋ยกล้วยไม้ ฉีดพ่นเป็นฝอยละเอียด ทุก 7 วัน เวลาเช้า ผสมให้ได้สัดส่วนตามสลาก ผสมอ่อนไปไม่มีอันตราย แต่ผสมแก่ไปจะเป็นอันตรายกับกล้วยไม้ได้ในระยะยาว ใช้ปุ๋ยสูตรเสมอเป็นมาตรฐาน ขอให้ละลายน้ำได้สมบูรณ์ก็แล้วกัน กล้วยไม้จะได้งามอ้วนสมบูรณ์ครับ